เมื่ออดีตนักวิ่งหวนคืนสนามซ้อม

สมัยที่ผมเป็นนักเรียน นักศึกษา ก็มีบ้างที่เป็นนักกีฬา นักกรีฑาของโรงเรียน และมหาวิทยาลัย แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นนักกีฬากรีฑาที่เก่งอะไรหรอก แต่จะเก่งหรือไม่เก่งมันก็ผ่านการซ้อมอย่างหนักมา ซึ่งการซ้อมที่ผ่านมาก็พอที่จะรู้หลักการ และท่าวอร์มต่างๆ ตั้งแต่ผมลาออกจากงานมาทำสวนตั้งแต่ปี 2550 ก็ถือว่าแทบจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย นอกเสียจากได้เหงื่อจากการทำสวน แต่การได้เหงื่อจากการทำสวน ก็ไม่เหมือนกับการออกกำลังกาย ช่วงสามปีหลังมานี้ฝนตกบ่อย ยางกรีดไม่ได้ ทำงานในสวนก็ไม่ได้ ชีวิตอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น ความเจ็บไข้ไม่สบายก็เริ่มถามหา บ่อยขึ้น ตอนที่ไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วรับยา เภสัชกรบอกว่า ออกกำลังกายเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องกินยานี้  มันเป็นคำพูดที่สะกิดใจผม  คิดว่าต้องหาเวลามาออกกำลังกาย ส่วนตัวก็ชอบปั่นจักรยาน แต่ตอนนี้ยางก็ไม่ค่อยได้กรีด หนำซ้ำยางราคาตก รายได้หดหายไม่มีเงินซื้อจักรยาน แต่ถ้าซื้อรองเท้าวิ่งดีๆ สักคู่ ก็พอได้อยู่ จึงเป็นที่มาของ มื่ออดีตนักวิ่งหวนคืนสนามซ้อม

สมัยก่อนวิ่งเป็นระยะทางเท่าไหร่ก็นับรอบสนามเอา แต่เดี๋ยวนี้มี App เยอะแยะให้เราใช้งาน ผมวิ่งวันแรกวิ่งไปแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าน่าจะลองใช้ App อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าวิ่งไปเป็นระยะทางเท่าไหร่แล้ว ก็เริ่มค้นหาว่ามี App อะไรที่เขาแนะนำ ก็โหลดมาใช้ก่อน ค่อยศึกษาหาความรู้ใหม่อีกที

การที่หยุดวิ่งมานานแล้วเริ่มออกกำลังกายวันแรก ไม่ควรหักโหม เริ่มจากการวอร์มอัพก่อน แล้วเดิน  แล้วค่อยๆ วิ่ง พออยู่ตัวแล้ว ก็ลองจับเวลาดู ผลออกมาได้ดังรูป ก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่าผลออกมาเป็นอย่างไร

 

เมื่ออดีตนักวิ่งหวนคืนสนามซ้อมเมื่ออดีตนักวิ่งหวนคืนสนามซ้อม

กลับมาบ้านก็มาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้อีก สรุปว่าการวิ่งสมัยที่มีสมาร์ทโฟนนี่ มันน่าวิ่งจริงๆ มี App ช่วยเราเยอะมาก เป็นศาสตร์วิชาอีกแขนงที่ไม่เคยรู้มาก่อน น่าสนใจดี

สนามซ้อมของผม

เมื่ออดีตนักวิ่งหวนคืนสนามซ้อม

บล็อกนี้บันทึกไว้ว่า เริ่มซ้อมวิ่ง 17 ธันวาคม 2550

 

Loading

Facebook Comments